จดทะเบียนบริษัทออนไลน์
คือการจดทะเบียนบริษัทที่สามารถทำผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้ทั้งหมด (DBD e-Registration) และไม่ต้องยื่นเอกสารประกอบการจดทะเบียนในรูปแบบกระดาษ
“คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียค่าจ้างจดทะเบียนบริษัทในราคาแพง สามารถประหยัดต้นทุนในการเริ่มธุรกิจได้ หากดูข้อมูลตามนี้แล้ว ผมยืนยันว่าสามารถจดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเองได้กันทุกคนครับ”
สำหรับท่านไหนที่พอมีเวลาศึกษาข้อมูลก่อนจดทะเบียนบริษัท ผมแนะนำให้อ่านบทความเหล่านี้ก่อน ผมจะทยอยเขียนออกมาเรื่อยๆเพื่อให้ความรู้ครับ รวมบทความสำหรับผู้ประกอบการใหม่
สารบัญ
- สอนจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ในรูปแบบ VDO
- การเตรียมข้อมูลจดทะเบียนบริษัทออนไลน์
- การยืนยันตัวตน
- การกรอกข้อมูลจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ในระบบ e-Registration
- การลงลายมือชื่อทางอิเล็กทรอนิกส์
- การยื่นคำขอจดทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียม
- เอกสารที่ได้จากการจดทะเบียนบริษัทออนไลน์แบบ e-Registration
- การขอคัดเอกสารประกอบการจดทะเบียนอื่น
- สรุปวิธีการจดทะเบียนบริษัทออนไลน์
สอนจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ในรูปแบบ VDO
ท่านใดที่ต้องการจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ด้วยตนเอง (DBD e-Registration) ทำตามคลิป VDO ด้านล่างได้ทั้งหมดเลยครับในคลิปเดียว
“ท่านใดต้องการใส่ชื่อผู้สอบในเอกสารการจดทะเบียน ติดต่อผมมาได้เลย คิดค่าใช้จ่ายเพียง 500 บาท” หรือ
“ท่านใดต้องการให้จดทะเบียนบริษัทให้ (ฟรีค่าบริการ) จ่ายเพียงค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน+ค่าคัดเอกสารการจดทะเบียน+ค่ารายชื่อผู้สอบบัญชี ไม่เกิน 5,000 บาท ติดต่อผมมาได้เลยครับ”
การยืนยันตัวตน
การจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ ในขั้นแรกที่เราต้องทำนั่นก็คือการยืนยันตัวตน เพื่อเป็นการเปิดบัญชีผู้ใช้งานในระบบ DBD e-Registration ซึ่งมีวิธีการดังนี้
1. เข้าสู่ระบบ DBD e-Registration
2. กดปุ่ม ลงทะบียน
3. กดปุ่ม ลงทะเบียนผู้ใช้งานระบบ
4. ติ๊กถูกและกดปุ่ม ดำเนินการต่อ
5. การยืนยันตัวตนกรณีจดทะเบียนบริษัทออนไลน์จะมีด้วยกันอยู่ 3 แบบหลักๆดังนี้
- ยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) – การยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) จะเป็นการถ่ายรูปบัตรประชาชน ถ่ายรูปผู้ลงทะเบียน และถ่าย VDO ผู้ลงทะเบียน สามารถทำได้เองที่บ้านซึ่งผู้ใช้งานจะต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีกล้องที่สามารถถ่ายรูปได้
- ยืนยันตัวตนด้วยตนเอง – การยืนยันตัวตนด้วยตนเอง ผู้ลงทะเบียนจะต้องนำเอกสาร “คำขอรับ/แก้ไขข้อมูล ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน (Username และ Password)” ไปยืนยันตัวตนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้วยตนเอง พร้อมบัตรประชาชนตัวจริง
- มอบอำนาจให้บุคคลอื่นยื่นเอกสารยืนยันตัวตนแทน – การมอบอำนาจให้บุคคลอื่นยื่นเอกสารยืนยันตัวตนแทน ผู้รับมอบอำนาจจะต้องนำเอกสาร “คำขอรับ/แก้ไขข้อมูล ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน (Username และ Password)” ไปยืนยันตัวตนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อมบัตรประชาชนตัวจริงของผู้รับมอบอำนาจและสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจ
ในความเห็นผมจากที่ได้ลองยืนยันตัวตนมาแล้วทั้ง 3 วิธี ผมคิดว่า การยืนยันตัวตนด้วยตนเอง หรือการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นยื่นเอกสารยืนยันตัวตนแทน โดย Print เอกสารไปยืนยันตัวตนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดครับ
6. ให้เลือกว่าจะยืนยันตัวตนแบบใดข้อ 1-3 แล้วกดปุ่ม ดำเนินการต่อ
7. กรอกข้อมูลส่วนตัวของผู้ถือหุ้นให้ครบถ้วน ห้ามเว้นว่างช่องที่มีเครื่องหมาย * และให้ติ๊ก ฉันไม่ใช่โปรแกรมอัตโนมัติ และกดปุ่ม บันทึก
8. หลังจากนั้นถ้าคุณเลือกวิธีการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) ก็ให้ถ่ายรูป ถ่าย VDO ตามที่ระบบกำหนด (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คลิป VDO สอนจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ เวลา 5:40 – 13:23)
ถ้าคุณเลือกยืนยันตัวตนด้วยตนเอง หรือ มอบอำนาจให้บุคคลอื่นยื่นเอกสารยืนยันตัวตนแทนผู้ลงทะเบียน หรือผู้รับมอบอำนาจจะต้องพิมพ์และนำเอกสาร “คำขอรับ/แก้ไขข้อมูล ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน (Username และ Password)” ไปยืนยันตัวตนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คลิป VDO สอนจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ เวลา 14:05 – 21:40)
การกรอกข้อมูลจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ในระบบ e-Registration
- เข้าสู่ระบบ Log in DBD e-Registration
- พิมพ์ Username Password ที่ได้ลงทะเบียนเอาไว้ในขั้นตอนการยืนยันตัวตน และติ๊ก ฉันไม่ใช่โปรแกรมอัตโนมัติ
3. เมื่อเข้าสู่ระบบแล้วให้เลือกเมนู จดทะเบียนนิติบุคคล
4. เลือก สร้างคำขอการจดทะเบียน และกดปุ่ม หน้าถัดไป
5. เลือก บริษัทจำกัด และกดปุ่ม หน้าถัดไป
6. เลือก บริษัทจำกัด : หนังสือบริคณห์สนธิและจัดตั้งบริษัทพร้อมกัน (ภายในวันเดียว) และกดปุ่ม หน้าถัดไป
7. ถัดมาให้ตอบคำถามเกี่ยวกับการจดทะเบียนบริษัทจำกัด โดยแบ่งเป็น 5 หัวข้อดังนี้
- บริษัทที่ประสงค์ขอจดทะเบียนจัดตั้ง มีผู้เริ่มก่อการ/ผู้ถือหุ้น 3 คน และมีสัญชาติไทย : กรณีบริษัทมีผู้ถือหุ้นเป็นคนไทยทั้งหมดให้ติ๊กข้อนี้ กรณีที่มีชาวต่างชาติเป็นผู้ถือหุ้นด้วยไม่ต้องติ๊กข้อนี้
- กรรมการเป็น ผู้เริ่มก่อการ และ ผู้ถือหุ้น : ส่วนใหญ่แล้วกรรมการจะเป็นผู้เริ่มก่อการและผู้ถือหุ้นอยู่แล้วดังนั้นต้องติ๊กข้อนี้ด้วยหากเข้ากรณีดังกล่าว
- ทุนจดทะเบียนของบริษัทที่ประสงค์ขอจดทะเบียนจัดตั้ง มีจำนวนไม่เกิน 5 ล้านบาท : ถ้าคุณเป็นบริษัทเล็กๆที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาทให้ติ๊กข้อนี้ แต่ถ้าคุณเป็นบริษัทใหญ่ที่มีทุนเกินกว่า 5 ล้านบาทไม่ต้องติ๊กข้อนี้
- หุ้นของบริษัทเป็นหุ้นสามัญที่ชำระด้วยเงินสดทั้งหมด เต็มมูลค่าหุ้น (100%) : ตามกฎหมายทางบริษัทไม่จำเป็นต้องชำระค่าหุ้นเต็ม 100% ตั้งแต่วันจดทะเบียนก็ได้ กฎหมายกำหนดการชำระค่าหุ้นขั้นต่ำเอาไว้ที่ 25% ดังนั้นหากคุณต้องการชำระค่าหุ้น 100% ก็ให้ติ๊กข้อนี้ แต่หากคุณยังไม่ต้องการชำระค่าหุ้นเต็ม 100% ก็ไม่ต้องติ๊กข้อนี้ (หากคุณเป็นบริษัท SME ทั่วๆไปผมแนะนำไม่ต้องติ๊กข้อนี้)
- บริษัทใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เป็นข้อบังคับของบริษัท : โดยปกติแล้วในการจดทะเบียนบริษัทโดยทั่วไปจะใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เป็นข้อบังคับของบริษัทดังนั้นให้คุณติ๊กข้อนี้
สรุปโดยทั่วไปแล้วหากคุณเป็นบริษัท SME เพิ่งตั้งใหม่ มีผู้ถือหุ้นทุกคนเป็นคนไทย ทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้าน ต้องการชำระค่าหุ้นตามขั้นต่ำของกฎหมาย ผมแนะนำให้ติ๊กข้อ 1 2 3 5 โดยไม่ต้องติ๊กข้อ 4 ตามรูปภาพนี้ได้เลยครับ และกดปุ่ม ทำต่อไป
8. ในหน้านี้จะเกี่ยวกับการจองชื่อนิติบุคคล ให้คุณเลือก ท่านเป็น หุ้นส่วน / หุ้นส่วนผู้จัดการ /กรรมการ / ผู้เริ่มก่อการ และให้คุณใส่ชื่อภาษาไทย และภาษาอังกฤษลงไปทั้งคอลัมน์ซ้ายและขวา หากชื่อดังกล่าวซ้ำหรือเป็นชื่อที่ไม่ถูกต้องระบบจะมีการแจ้งเตือน หากไม่มีการแจ้งเตือนแล้วให้ติ๊ก ห้างหุ้นส่วน/บริษัท นี้ยอมรับข้อตกลงดังกล่าวข้างต้นทุกประการ และกดปุ่ม หน้าถัดไป
9. หน้านี้จะเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับการประชุมเพื่อจัดตั้งบริษัท ให้ใส่ข้อมูลวันที่และเวลาประชุม ซึ่งต้องเป็นวันที่ก่อนมาจดทะเบียนในระบบ DBD e-Registration กรอกข้อมูลสถานที่ประชุมและประธานที่ประชุมให้ครบถ้วน และกดปุ่ม หน้าถัดไป
10. หน้านี้จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับรายงานการประชุมจัดตั้งบริษัท ในส่วนแรกให้ใส่จำนวนเงินที่จ่ายไปเพื่อตั้งบริษัท หากคุณจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ด้วยตัวเองผ่านระบบ e-Registration จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ราวๆ 5,000 บาทในส่วนนี้ให้ใส่ที่ 5,000 บาทก่อนก็ได้ครับ
ส่วนถัดมาจะเป็นรายละเอียดข้อมูลของผู้สอบบัญชี โดยปกติแล้วทุกๆบริษัทจะต้องปิดงบการเงินและนำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากรเป็นประจำทุกปี ซึ่งในงบการเงินจะต้องมีลายเซ็นของผู้สอบบัญชี ดังนั้นทุกๆบริษัทจะต้องมีผู้สอบบัญชี ข้อมูลในส่วนนี้ให้คุณกรอก ชื่อ นามสกุล เลขทะเบียนของผู้สอบบัญชี รวมทั้งค่าสินจ้างลงไป และใส่เวลาปิดประชุม และกดปุ่ม หน้าถัดไป
“ท่านใดต้องการใส่ชื่อผู้สอบในเอกสารการจดทะเบียน ติดต่อผมมาได้เลย คิดค่าใช้จ่ายเพียง 500 บาท”
“ผมยินดีให้คำปรึกษาจนกว่าจะจดทะเบียนสำเร็จ”
11. หน้านี้เป็นแบบ บอจ.2 คือ หนังสือบริคณห์สนธิ ให้คุณใส่จังหวัด อำเภอ ที่ตั้งของบริษัท ใส่ทุนของบริษัทซึ่งแบ่งเป็นจำนวนเงิน จำนวนหุ้น มูลค่าหุ้น ลงไป (ตัวอย่างโดยทั่วไปเช่น ทุนจดทะเบียน 1,000,000 ล้าน แบ่งเป็น 10,000 หุ้น หุ้นละ 100 บาท) และในส่วนสุดท้ายให้ใส่รายละเอียดผู้ถือหุ้นลงไป โดยกดปุ่ม เพิ่ม
12. ในส่วนนี้ให้ใส่เลขบัตรประชาชนของผู้ถือหุ้น และให้ใส่จำนวนหุ้นที่แต่ละคนถือ ลงไป โดยให้ใส่ข้อมูลของผู้ถือหุ้นทุกคน แล้วกดปุ่ม บันทึก
13. หน้านี้จะเป็น บอจ.3 คือ รายการจดทะเบียนจัดตั้ง ซึ่งจะต้องใส่รายรายละเอียดเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นที่ชำระแล้ว รายละเอียดที่ตั้งสำนักงานใหญ่ และรอบบัญชีของบริษัท และกดปุ่ม หน้าถัดไป
ในส่วนของรอบบัญชีให้ใส่วันที่ 2 หลัก และเดือน 2 หลัก ส่วนปีไม่ต้องใส่ เช่น หากต้องการปิดงบวันที่ 31 ธันวาคม ให้ใส่ 3112
14. บอจ.5 คือ สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นเป็นเอกสารที่แสดงรายละเอียดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท ให้ตรวจสอบดูความเรียบร้อยในหน้านี้ และกดปุ่ม หน้าถัดไป
15. แบบ ก คือแบบกรรมการเข้าใหม่ ให้ใส่รายละเอียดกรรมการของบริษัท ซึ่งโดยปกติแล้วกรรมการจะเป็นกลุ่มคนเดียวกับผู้ถือหุ้น และให้มีกรรมการไม่น้อยกว่า 1 คน ให้กดปุ่ม เพิ่ม เพื่อเลือกกรรมการ และใส่เลขที่บัตรประชาชนของกรรมการ และกดปุ่ม บันทึก และกดปุ่ม หน้าถัดไป
16. อำนาจกรรมการ ให้ใส่อำนาจกรรมการในการเซ็นเอกสารของบริษัทลงไปตามตัวอย่างของกรมพัฒนาธุรกิจการ ซึ่งจะมีหลายแบบให้เลือก ใส่แล้วกดปุ่ม หน้าถัดไป
17. แบบ ว คือวัตถุประสงค์ของบริษัทในกรณีที่บริษัทของคุณขายสินค้า ให้เลือกแบบ ว.1 กรณีที่บริษัทของคุณทำธุรกิจให้บริการให้เลือกแบบ ว.2 แล้วกดปุ่ม หน้าถัดไป
18. วัตถุประสงค์ที่ต้องการเพิ่ม ในหน้านี้กรณีที่ธุรกิจที่คุณทำลองอ่านดูแล้วไม่มีในแบบ ว.1 หรือ ว.2 ที่คุณเลือกไป ให้เพิ่มวัตถุประสงค์เพิ่มเติม เพื่อให้วัตถุประสงค์ของบริษัทครอบคลุมทุกธุรกิจที่บริษัททำ แล้วกดปุ่ม หน้าถัดไป
19. แบบ สสช.1 คือ แบบแสดงรายละเอียดการประกอบธุรกิจของบริษัท ในหน้านี้ให้คุณเลือกรหัส TSIC ที่ตรงกับธุรกิจของคุณมากที่สุด แล้วกดปุ่ม หน้าถัดไป
20. ในหน้านี้ทางคุณต้องเลือกกรรมการผู้ลงนามของบริษัทว่าจะให้ใครบ้างที่มีอำนาจในการลงนาม และต้องเลือกว่าบริษัทจะกำหนดให้มีตราประทับหรือไม่ แล้วกดปุ่ม หน้าถัดไป
21. ในการแนบเอกสารกรณีที่คุณได้กำหนดให้มีตราประทับของบริษัท คุณต้องแนบรูปภาพตราประทับของบริษัทลงไปด้วย และให้คุณแนบแผนที่ตั้งของบริษัทด้วยทุกกรณี โดยให้วาดภาพแผนที่ ให้เห็นชื่อถนน สถานที่สำคัญ และที่ตั้งของบริษัทให้ชัดเจน ตรงจุดที่เป็นที่ตั้งของบริษัทให้ใส่ที่อยู่ของของบริษัทลงไปด้วย แล้วกดปุ่ม หน้าถัดไป
22. หน้าส่งคำขอให้ตรวจสอบ หน้านี้จะเป็นหน้าสุดท้ายที่คุณสามารถสอบทานข้อมูลอีกครั้งหนึ่งได้ ให้ตรวจสอบความถูกต้อง ถ้าไม่มีแก้ไขให้กด ส่งคำขอให้ตรวจสอบ
23. รอซักประมาณ 1-2 วันทำการ หากนายทะเบียนตรวจสอบแล้วมีแก้ไข จะมี Email ส่งมาแจ้งเตือนให้แก้ไขข้อมูล ให้คุณ Log in เข้าระบบ แล้วเลือกเมนู จดทะเบียนนิติบุคคล แล้วเลือก กรอกคำขอไว้ยังไม่แล้วเสร็จ /ตรวจสอบผลการพิจารณาของนายทะเบียน และให้เข้าไปตรวจสอบในแต่ละหน้าว่านายทะเบียนต้องการให้แก้ไขหน้าใดบ้างและดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง
ในส่วนนี้หากไม่เข้าใจจุดไหนสามารถ ดูรายละเอียดได้ที่คลิป VDO สอนจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ ได้ช่วงเวลา 22:00 – 55:30
การลงลายมือชื่อทางอิเล็กทรอนิกส์
หากนายทะเบียนอนุมัติคำขอของเราเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะมี Email มาแจ้งว่าอนุมัติคำขอแล้ว ให้คุณเข้าไปเซ็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ตามขั้นตอนดังนี้
- เข้าสู่ระบบ Log in DBD e-Registration
- พิมพ์ Username Password ที่ได้ลงทะเบียนเอาไว้ในขั้นตอนการยืนยันตัวตน และติ๊ก ฉันไม่ใช่โปรแกรมอัตโนมัติ
3. เลือกเมนู จดทะเบียนนิติบุคคล เลือก ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ แล้วกดปุ่ม หน้าถัดไป
4. ให้ทำการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยกดปุ่มที่ ลงลายมือชื่อ
5. ในการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ คุณต้องใส่รหัสผ่าน ที่เคยสมัครเอาไว้ในขั้นตอนการยืนยันตัวตน และกดปุ่ม ขอรหัส OTP หลังจากนั้นจะมีรหัส OTP ส่งเข้ามือถือ ให้กรอกรหัส OTP ดังกล่าวลงไปแล้วกด ลงนามอิเล็กทรอนิกส์
ในส่วนนี้หากไม่เข้าใจจุดไหนสามารถ ดูรายละเอียดได้ที่คลิป VDO สอนจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ ได้ช่วงเวลา 55:31 – 1:00:00
การยื่นคำขอจดทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียม
หลังจากที่ลงนามอิเล็กทรอนิกส์เรียบเร้อยแล้ว คุณก็จะต้องดำเนินการยื่นเอกสาร
- เข้าสู่ระบบ Log in DBD e-Registration
- พิมพ์ Username Password ที่ได้ลงทะเบียนเอาไว้ในขั้นตอนการยืนยันตัวตน และติ๊ก ฉันไม่ใช่โปรแกรมอัตโนมัติ
3. เลือกเมนู จดทะเบียนนิติบุคคล เลือก ยื่นคำขอจดทะเบียน และ ชำระค่าธรรมเนียม แล้วกดปุ่ม หน้าถัดไป
4. กด ยื่นคำขอการจดทะเบียน
5. หลังจากนั้นให้คุณตรวจสอบความเรียบร้อยของข้อมูล และให้ติ๊กข้าพเจ้ารับรอง… ทั้ง 2 ข้อ แล้วให้กด ยื่นคำขอจดทะเบียน
6. หลังจากที่ยื่นเอกสารเสร็จเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการชำระเงิน ให้กดปุ่ม ชำระเงิน
7. ให้ติ๊ก ขอหนังสือรับรอง แล้วกดปุ่ม หน้าถัดไป
8. ให้ใส่ที่อยู่ในการส่งเอกสาร หากเลือกที่อยู่รับเอกสารที่ลงทะเบียนเดิมเอกสารจะถูกส่งไปที่อยู่ตามที่ได้กรอกไว้ตอนยืนยันตัวตน หากต้องการให้ส่งเอกสารไปที่อื่นให้เลือกระบุที่อยู่การจัดส่งใหม่ แล้วกดปุ่ม หน้าถัดไป
9. ในส่วนของการจ่ายชำระเงินค่าธรรมเนียมจดทะเบียนบริษัทสามารถเลือกจ่ายชำระผ่านธนาคารหรือจ่ายผ่านบัตรเครดิตก็ได้
ในส่วนนี้หากไม่เข้าใจจุดไหนสามารถ ดูรายละเอียดได้ที่คลิป VDO สอนจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ ได้ช่วงเวลา 1:00:00–1:04:15
เอกสารที่ได้จากการจดทะเบียนบริษัทออนไลน์แบบ e-Registration
- หลังจากที่ชำระค่าธรรมเนียมเสร็จเรียบร้อย รอประมาณซัก 2-3 วันทางคุณก็จะได้รับ “ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัท” จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทางจดหมาย จะถือว่าได้การจดทะเบียนบริษัทของคุณเสร็จเรียบร้อยและสมบูรณ์แล้ว โดยเอกสารที่ได้รับจะมีใบนี้ใบเดียวเท่านั้น หน้าตาเอกสารจะเป็นดังนี้
2. หนังสือรับรองบริษัทสามารถดาวน์โหลดรูปแบบ PDF file ได้จากระบบ e-Registration โดยเลือกเมนู จดทะเบียนนิติบุคคล เลือก พิมพ์ใบเสร็จรับเงิน/ดาวน์โหลดไฟล์หนังสือรับรอง แล้วกดปุ่ม หน้าถัดไป
ดู VDO วิธีการดาวน์โหลดหนังสือรับรอง
การขอคัดเอกสารประกอบการจดทะเบียนอื่น
โดยสรุปการจดทะเบียนบริษัทออนไลน์แบบ DBD e-Registration จะได้เอกสารมาทั้งหมด 2 ส่วนเท่านั้น คือ “ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัท” และ “หนังสือรับรองบริษัท” ดังนั้นหากคุณต้องการเอกสารประกอบการจดทะเบียนอื่น เช่น ต้องการนำเอกสารไปเปิดบัญชีธนาคาร เป็นต้น ต้องดำเนินการคัดเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
- เข้าสู่ระบบการคัดเอกสารออนไลน์ บริการขอหนังสือรับรองนิติบุคคล
2. ให้ใส่ Username Password อันเดียวกับตอนที่เคยสมัครยืนยันตัวตน e-Registration
3. กดเลือก หนังสือรับรองนิติบุคคล รับรองสำเนา และถ่ายเอกสารทางทะเบียน งบการเงิน บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
4. เลือกวิธีในการรับเอกสารตามที่สะดวก ซึ่งจะมีแบบ รับเป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ จัดส่งทางไปรษณีย์ จัดส่งโดยพนักงานกรม รับด้วยตนเอง
5. ใส่เลขทะเบียนนิติบุคคลที่ต้องการคัดหนังสือรับรอง
6. ให้เลือกว่าจะคัดหนังสือรับรอง หรือเอกสารอื่นๆ (กรณีคัดหนังสือรับรองไปตอนจดทะเบียนบริษัทแล้ว ก็ไม่ต้องติ๊กช่องหนังสือรับรองอีก เนื่องจากสามารถดาวน์โหลดหนังสือรับรองได้จากระบบ DBD e-Registration อยู่แล้ว) และให้กด ดำเนินการต่อ
7. ถัดมาให้ติ๊กเลือกว่าจะคัดเอกสารใดบ้าง กรณีที่ต้องการนำเอกสารไปเปิดบัญชีธนาคารให้ติ๊กเลือก บอจ.2 บอจ.3 และ บอจ.5 และให้ดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมตามระบบต่อไป
สรุปวิธีการจดทะเบียนบริษัทออนไลน์
จดทะเบียนบริษัทออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่มั้ยครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนบริษัทเอง หรือคุณจะเป็นผู้แทนจดทะเบียนบริษัทแทนผู้ประกอบการ หากคุณมีเวลาที่จะศึกษาและทำตามขั้นตอนที่ผมสอนเอาไว้ทุกขั้นตอน ผมรับรองว่าสามารถจดทะเบียนบริษัทกันได้เองทุกคนครับ
สำหรับท่านใดที่ไม่มีเวลาศึกษาวิธีการจดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเอง สามารถจ้างให้ผมจดทะเบียนบริษัทให้ได้นะครับเพียง 10,000 บาท (รวมค่าธรรมเนียมทุกอย่างหมดแล้ว) ดูรายละเอียดใน Service รับจดทะเบียนบริษัท ได้เลยครับ